คำขอโอกาสแสดงปาฏิโมกข์
๑. โอกาสัง เม ภันเต เถโร เทตุ, ปาฏิโมกขัง อุทเทสิตุง ฯ (หรือ)
๒. โอกาสัง เม ภันเต เถโร เหตุ, วินะยะกะถา กะเถตุงฯ
คำขอโอกาสตั้งญัตติปวารณา
โอกาสัง เม ภันเต เถโร เทตุ, ปะวาระณาญัตติง ฐะเปตุงฯ
ถ้าในคณะสงฆ์นั้นไม่มีภิกษุเกิน ๑๐ พรรษา ให้เปลี่ยน “เถโร” เป็น “สังโฆ” แทน
อุโบสถ
๑.สังฆอุโบสถ มีภิกษุ ๔ รูปขึ้นไป ให้สวดปาฏิโมกข์ ภิกษุผู้จะเข้าฟังพึงแสดงอาบัติก่อน ถ้าภิกษุต้องอาบัติ
สังฆาทิเสสพึงบอกไว้แก่ภิกษุแม้รูปหนึ่งว่า ข้าพเจ้าต้องอาบัติสังฆาทิเสสข้อนั้นๆ แล้วฟังปาฏิโมกข์ได้
ถ้ากำลังสวดปาฏิโมกข์ค้างอยู่ มีภิกษุพวกอื่นมา ถ้ามีจำนวนมากกว่าให้ตั้งต้นสวดใหม่ ถ้าเท่ากันหรือน้อยกว่า
ให้ฟังส่วนที่เหลือต่อไป ถ้าสวดจบแล้วจึงมาถึงมากกว่าไม่ต้องกลับสวดอีก พึงให้บอกปาริสุทธิเป็นการสงฆ์ ดังนี้
“ปะริสุทโธ อะหัง ภันเต, ปะริสุทโธติ มัง สังโฆ ธาเรตุ” (๓ จบ)
๒. คณะอุโบสถ มีภิกษุ ๓, ๒ รูป ไม่ให้สวดปาฏิโมกข์ ให้บอกความบริสุทธิ์ของตนแก่กันและกัน
๒.๑ มีภิกษุ ๓ รูป ให้ตั้งญัตติก่อนว่า
“สุณาตุ เม ภันเต อายัสมันตา อัชชุโปสะโถ ปัณณะระโส , ยะทายัสมันตานัง ปัตตะกัลลัง,
มะยัง อัญญะมัญญัง ปาริสุทธิ อุโปสะถัง กะเรยยามะ”
ครั้นตั้งญัติติแล้ว พึงบอกความบริสุทธิ์ตามลำดับพรรษาว่า
“ปะริสุทโธ อะหัง อาวุโส, (ภันเต) ปะริสุทโธติ มัง ธาเรถ”
๒.๒ มีภิกษุ ๒ รูป ไม่ต้องตั้งญัตติ
๓. บุคคลอุโบสถ ภิกษุอยู่รูปเดียวให้รอภิกษุอื่นจนสิ้นเวลา
เห็นว่าไม่มาแล้วพึงอธิษฐานว่า “อัชชะ เม อุโปสะโถ”