ปติปูชิกา
    อ.พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ในเมืองชื่อว่าสาวัตถี ทรงปรารภ ซึ่งหญิง ชื่อว่าปติปูชิกา ตรัสแล้ว ซึ่งพระธรรมเทศนา นี้ ว่า ปุปฺผานิ เหว ดังนี้เป็นต้น ฯ0  1“ปุปฺผานิ 2เหวาติ 3อิมํ 4ธมฺมเทสนํ 5สตฺถา 6สาวตฺถิยํ 7วิหรนฺโต 8ปติปูชิกํ 9นาม 10อิตฺถึ 11อารพฺภ 12กเถสิ.
    อ.เรื่องตั้งขึ้นพร้อมแล้ว ในเทวโลกชื่อว่าดาวดึงส์ ฯ1  1วตฺถุ 2ตาวตึสเทวโลเก 3สมุฏฺิตํ.
    ได้ยินว่า อ.เทพบุตร ชื่อว่ามาลาภารีในเทวโลกชื่อว่าดาวดึงส์นั้น ผู้อันพันแห่งนางอัปสรแวดล้อมแล้ว ได้เข้าไปแล้ว สู่สวน ฯ2  1ตตฺถ 2กิร 3มาลาภารี 4นาม 5เทวปุตฺโต 6อจฺฉราสหสฺสปริวุโต 7อุยฺยานํ 8ปาวิสิ.
    อ.เทพธิดา ท. มีร้อยห้าเป็นประมาณ ขึ้นแล้ว สู่ต้นไม้ ยังดอกไม้ ท. ให้ตกไปอยู่ ฯ3  1ปญฺจสตา 2เทวธีตโร 3รุกฺขํ 4อารุยฺห 5ปุปฺผานิ 6ปาเตนฺติ.
    (อ.เทพธิดา ท.) มีร้อยห้าเป็นประมาณ ถือเอาแล้ว ซึ่งดอกไม้ ท. อันอันเทพธิดา ท. เหล่านั้น ให้ตกไปแล้ว ย่อมกระทำให้พอ ซึ่งเทพบุตร ท. ฯ4  1ปญฺจสตา 2ตาหิ 3ปาติตานิ 4ปุปฺผานิ 5คเหตฺวา 6เทวปุตฺตํ 7อลงฺกโรนฺติ.
     ในเทพธิดา ท. เหล่านั้นหนา ฯ อ.เทพธิดา องค์หนึ่ง เคลื่อนแล้ว ที่กิ่งของต้นไม้นั่นเทียว ฯ5  1ตาสุ 2เอกา 3เทวธีตา 4รุกฺขสาขายเมว 5จุตา.
    อ.สรีระ ดับแล้ว ราวกะ อ.เปลวแห่งประทีป ฯ6  1สรีรํ 2ทีปสิขา 3วิย 4นิพฺพายิ.
    อ.เทพธิดานั้น ถือเอาแล้ว ซึ่งปฏิสนธิในเรือนแห่งตระกูล หลังหนึ่ง ในเมืองชื่อว่าสาวัตถี เป็นหญิงระลึกซึ่งชาติได้ ในกาลแห่งตนเกิดแล้ว เป็น ระลึกตามอยู่ ว่า อ.เรา เป็นภรรยา ของเทพบุตรชื่อว่ามาลาภารี ย่อมเป็น ดังนี้ อาศัยแล้ว ซึ่งความเจริญ กระทำแล้ว ซึ่งการบูชาด้วยวัตถุมีของหอมและระเบียบ เป็นต้น ปรารถนาแล้ว ซึ่งอันบังเกิดเฉพาะ ในสำนัก ของสามี ฯ7  1สา 2สาวตฺถิยํ 3เอกสฺมึ 4กุลเคเห 5ปฏิสนฺธึ 6คเหตฺวา 7ชาตกาเล 8ชาติสฺสรา 9หุตฺวา 10“มาลาภาริเทวปุตฺตสฺส 11ภริยมฺหีติ 12อนุสฺสรนฺตี 13วุฑฺฒิมนฺวาย 14คนฺธมาลาทิปูชํ 15กตฺวา 16สามิกสฺส 17สนฺติเก 18อภินิพฺพตฺตึ 19ปฏฺเสิ.
    อ.หญิงนั้นแม้ไปแล้ว สู่ตระกูลของบุคคลอื่น ในกาลแห่งตนมี- กาลฝน ๑๖ ถวายแล้ว (ซึ่งภัตร ท.) มีสลากภัตรและปักขิกภัตรและ- วัสสาวาสิกภัตรเป็นต้น ย่อมกล่าว ว่า (อ.ส่วนแห่งบุญ) นี้ เป็นปัจจัย จงเป็น เพื่อประโยชน์แก่อันบังเกิด ในสำนัก ของสามี ของเรา ดังนี้ ฯ8  1สา 2โสฬสวสฺสกาเล 3ปรกุลํ 4คตาปิ 5สลากภตฺต- 6ปกฺขิกภตฺตวสฺสาวาสิกาทีนิ 7ทตฺวา 8“อยํ 9เม 10สามิกสฺส 11สนฺติเก 12นิพฺพตฺตนตฺถาย 13ปจฺจโย 14โหตูติ 15วทติ.
    ครั้งนั้น อ.ภิกษุ ท. (รู้แล้ว) ว่า อ.หญิงนี้ ลุกขึ้นแล้ว ลุกขึ้นพร้อม แล้ว ย่อมปรารถนา ซึ่งผัวนั่นเทียว ดังนี้ กระทำแล้ว (ซึ่งคำ) ว่าปติปูชิกา ดังนี้ ให้เป็นชื่อ ของหญิงนั้น ฯ9  1อถสฺสา 2ภิกฺขู 3“อยํ 4อุฏฺาย 5สมุฏฺาย 6ปติเมว 7ปฏฺเตีติ 8“ปติปูชิกาติ 9นามํ 10กรึสุ.
    อ.หญิงแม้นั้น ย่อมปฏิบัติ ซึ่งสาลาเป็นที่นั่ง ย่อมเข้าไปตั้งไว้ ซึ่งน้ำอันบุคคลพึงดื่ม ย่อมปูลาดซึ่งอาสนะ ท. เนืองนิจ ฯ10  1สาปิ 2นิพทฺธํ 3อาสนสาลํ 4ปฏิชคฺคติ 5ปานียํ 6อุปฏฺเปติ 7อาสนานิ 8ปญฺญาเปติ.
    อ.มนุษย์ ท. แม้เหล่าอื่น เป็นผู้ใคร่เพื่ออันถวาย (ซึ่งภัตร ท.) มีสลากภัตร เป็นต้น (เป็น) นำมาแล้ว ให้อยู่ (ด้วยคำ) ว่า แน่ะแม่ อ.เธอ (ยังภัตร ท.) แม้เหล่านี้ พึงให้ถึงเฉพาะ แก่หมู่แห่งภิกษุ ดังนี้ ฯ11  1อญฺเญปิ 2มนุสฺสา 3สลากภตฺตาทีนิ 4ทาตุกามา 5“อมฺม 6อิมานิปิ 7ภิกฺขุสงฺฆสฺส 8ปฏิปาเทยฺยาสีติ 9อาหริตฺวา 10เทนฺติ.
    อ.หญิงแม้นั้น มาอยู่ ไปอยู่ โดยทำนอง นั่น ได้เฉพาะแล้วซึ่งกุศล ธรรม ๕๖ ท. ในวาระแห่งย่างเท้าก้าวหนึ่ง ฯ12  1สาปิ 2เอเตน 3นิยาเมน 4อาคจฺฉนฺตี 5คจฺฉนฺตี 6เอกปทวาเร 7ฉปฺปญฺญาสกุสลธมฺเม 8ปฏิลภิ.
    อ.สัตว์ผู้เกิดแล้วในครรภ์ ตั้งขึ้นพร้อมแล้ว ในท้อง ของหญิงนั้น ฯ13  1ตสฺสา 2กุจฺฉิยํ 3คพฺโภ 4สมุฏฺหิ.
    อ.หญิงนั้น คลอดแล้ว ซึ่งบุตร โดยอันล่วงไปแห่งเดือนสิบ ฯ14  1สา 2ทสมาสจฺจเยน 3ปุตฺตํ 4วิชายิ.
    (อ.หญิงนั้น) ได้แล้ว ซึ่งบุตร ท. ๔ คือ (ซึ่งบุตร) แม้อื่น (ซึ่งบุตร) แม้อื่น ในกาลเป็นที่ไป ด้วยเท้าแห่งบุตรนั้น ฯ15  1ตสฺส 2ปทสา 3คมนกาเล 4อญฺญมฺปิ 5อญฺญมฺปีติ 6จตฺตาโร 7ปุตฺเต 8ลภิ.
    ในวันหนึ่ง อ.หญิงนั้น ถวายแล้ว ซึ่งทาน กระทำแล้ว ซึ่งการบูชา ฟังแล้ว ซึ่งธรรมรักษาแล้ว ซึ่งกาละ ด้วยโรค บางอย่าง อันบังเกิดแล้ว ในขณะนั้น ในกาลเป็นที่สุดลงรอบแห่งวัน บังเกิด แล้ว ในสำนักของสามี ของตนนั่นเทียว ฯ16  1สา 2เอกทิวสํ 3ทานํ 4ทตฺวา 5ปูชํ 6กตฺวา 7ธมฺมํ 8สุตฺวา 9สิกฺขาปทานิ 10รกฺขิตฺวา 11ทิวสปริโยสาเน 12ตํขณํ 13นิพฺพตฺเตน 14เกนจิ 15โรเคน 16กาลํ 17กตฺวา 18อตฺตโน 19สามิกสฺเสว 20สนฺติเก 21นิพฺพตฺติ.
    (อ.เทพธิดา ท.) แม้เหล่านอกนี้ ย่อมกระทำให้พอ ซึ่งเทพบุตร ตลอดกาล มีประมาณเท่านี้นั่นเทียว ฯ17  1อิตราปิ 2เอตฺตกํ 3กาลํ 4เทวปุตฺตํ 5อลงฺกโรนฺติ 6เอว.
    อ.เทพบุตร เห็นแล้ว ซึ่งเทพธิดานั้น กล่าวแล้ว ว่า อ.เธอ ย่อมไม่ปรากฏ จำเดิมในเวลาเช้า อ.เธอ เป็นหญิงไปแล้ว ในที่ไหน ย่อมเป็น ดังนี้ ฯ18  1เทวปุตฺโต 2ตํ 3ทิสฺวา 4“ตฺวํ 5ปาโต 6ปฏฺาย 7 8ทิสฺสสิ, 9กุหึ 10คตาสีติ 11อาห.
     อ.เทพธิดา กล่าวแล้วว่า อ.ดิฉัน เป็น ผู้เคลื่อนแล้ว ย่อมเป็น ดังนี้ (อ.เทพบุตร กล่าวแล้ว) ว่า อ.เธอ กล่าวแล้ว ซึ่งคำอะไร ดังนี้ ฯ19  1“จุตามฺหิ 2สามีติ.
    (อ.เทพธิดา กล่าวแล้ว) ว่า ข้าแต่นาย (อ.เรื่อง) นั่น (ย่อมเป็น) อย่างนี้ ดังนี้ ฯ20  1“กึวเทสีติ.
    (อ.เทพบุตร ถามแล้ว) ว่า (อ.เธอ) เป็นหญิงบังเกิดแล้ ว ในที่ไหน ย่อมเป็น ดังนี้ ฯ21  1“เอวเมตํ 2สามีติ.
    (อ.เทพธิดา กล่าวแล้ว) ว่า (อ.ดิฉัน เป็นหญิงบังเกิดแล้ว) ในเรือน แห่งตระกูล ในเมืองชื่อว่าสาวัตถี (ย่อมเป็น) ดังนี้ ฯ22  1“กุหึ 2นิพฺพตฺตาสีติ.
     (อ.เทพบุตร ถามแล้ว) ว่า อ.เธอเป็นหญิงดำรงอยู่แล้ว ในเมืองชื่อว่าสาวัตถีนั้น สิ้นกาล มีประมาณเท่าไร ย่อมเป็นดังนี้ ฯ 23  1“ทสมาสจฺจเยน 2มาตุกุจฺฉิโต 3นิกฺขมิตฺวา 4โสฬส- 5วสฺสกาเล 6ปติกุลํ 7คนฺตฺวา 8จตฺตาโร 9ปุตฺเต 10วิชายิตฺวา 11ทานาทีนิ 12ปุญฺญานิ 13กตฺวา 14ตุมฺเห 15ปฏฺเตฺวา 16อาคนฺตฺวา 17ตุมฺหากเมว 18สนฺติเก 19นิพฺพตฺตมฺหิ 20สามีติ.
     (อ.เทพธิดากล่าวแล้ว) ว่า ข้าแต่นาย อ.ดิฉัน เป็นหญิงออกแล้ว จากท้องของมารดา โดยอันล่วงไปแห่งเดือนสิบ ไปแล้ว สู่ตระกูลแห่งผัว ในกาลแห่งตน มีกาลฝน ๑๖ คลอดแล้ว ซึ่งบุตร ท. ๔ กระทำแล้ว ซึ่งบุญ ท. มีทานเป็นต้น ปรารถนาแล้วซึ่งทาน ท. มาแล้ว บังเกิดแล้ว ในสำนัก ของท่าน ท. นั่นเทียว ย่อมเป็น ดังนี้ ฯ24  1“มนุสฺสานํ 2กิตฺตกํ 3อายุนฺติ.
     (อ.เทพบุตร ถามแล้ว) ว่า อ.อายุ ของมนุษย์ ท. มีประมาณเท่าไร ดังนี้ ฯ25  1“วสฺสสตมตฺตนฺติ.
    (อ.เทพธิดา กล่าว- แล้ว) ว่า (อ.อายุ ของมนุษย์ ท.) มีร้อยแห่งเป็นประมาณ ดังนี้ ฯ26  1“เอตฺตกเมวาติ.
    (อ.เทพบุตร ถามแล้ว) ว่า (อ.อายุของมนุษย์ ท.) มีประมาณเท่า นี้นั่นเทียวหรือ ดังนี้ ฯ27  1“อาม 2สามีติ.
     (อ.เทพธิดา กล่าวแล้ว) ว่า ข้าแต่นาย จ้ะ (อ.อย่างนั้น) ดังนี้ ฯ 28  1“เอตฺตกํ 2อายุํ 3คเหตฺวา 4นิพฺพตฺตา 5มนุสฺสา 6กินฺนุ 7โข 8สุตฺตปฺปมตฺตา 9กาลํ 10อติกฺกาเมนฺติ, 11อุทาหุ 12ทานาทีนิ 13ปุญฺญานิ 14กโรนฺตีติ.
     (อ.เทพบุตร ถามแล้ว ว่า อ.มนุษย์ ท. ผู้ถือเอาแล้วซึ่งอายุ มีประมาณเท่านี้ บังเกิดแล้ว เป็นผู้ประมาท แล้วเพียงดังหลับแล้ว (เป็น) ยังกาล ย่อมให้ก้าวล่วง หรือหนอแล, หรือว่า (อ.มนุษย์ ท.ย่อมกระทำ ซึ่งบุญ ท. มีทานเป็นต้น ดังนี้ ฯ29  1“กึ 2วเทถ 3สามิ, 4อสงฺเขยฺยํ 5อายุํ 6คเหตฺวา 7นิพฺพตฺตา 8วิย 9อชรามรา 10วิย 11นิจฺจปฺปมตฺตา 12มนุสฺสาติ.
    (อ.เทพธิดา กล่าวแล้ว) ว่า ข้าแต่นาย อ.ท่าน ท. ย่อมกล่าว ซึ่งคำ อะไร, อ.มนุษย์ ท. เป็นผู้ประมาทแล้วเนืองนิตย์เป็นราวกะว่าผู้ถือ เอาแล้ว ซึ่งอายุ มีอสงไขยเป็นประมาณบังเกิดแล้ว เป็นราวกะว่าผู้ ไม่แก่และไม่ตาย (ย่อมเป็น) ดังนี้ อ.ความสลดใหญ่ ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่เทพบุตรชื่อว่ามาลาภารี ว่า ได้ยินว่า อ.มนุษย์ ท. ผู้ถือเอาแล้ว ซึ่งอายุ มีร้ อยแห่งปี เป็นประมาณ บังเกิดแล้ว ประมาทแล้ว นอนแล้ว ย่อมประพฤติหลับ, อ.มนุษย์ ท. จักพ้น จากทุกข์ ในกาลไร หนอ แล ดังนี้ ฯ30  1มาลาภาริเทวปุตฺตสฺส 2มหาสํเวโค 3อุทปาทิ 4“วสฺสสตมตฺตํ 5อายุํ 6คเหตฺวา 7นิพฺพตฺตา 8มนุสฺสา 9กิร 10ปมตฺตา 11นิปชฺชิตฺวา 12นิทฺทายนฺติ, 13กทา 14นุ 15โข 16ทุกฺขา 17มุจฺจิสฺสนฺตีติ.
    (อ.พระธรรมสังคาหกาจารย์ กล่าวแล้ว) ว่า ก็ อ.ร้อยแห่งปี ของเรา ท. เป็นคืนและวันหนึ่ง ของเทพ ท. ผู้อยู่ในภพชื่อว่า ดาวดึงส์ (ย่อมเป็น), อ.ราตรี ท. ๓๐ โดยราตรี นั้น เป็นเดือน (ย่อมเป็น), (อ.กาล) อันประกอบแล้วด้วยเดือน ๑๒ โดยเดือน นั้น เป็นปี (ย่อมเป็น), อ.พันแห่งปี อันเป็นทิพย์ โดยปี นั้น เป็น ประมาณแห่งอายุ (ย่อมเป็น) ฯ31  1อมฺหากํ 2ปน 3วสฺสสตํ 4ตาวตึสานํ 5เทวานํ 6เอโก 7รตฺตินฺทิโว, 8ตาย 9รตฺติยา 10ตึส 11รตฺติโย 12มาโส, 13เตน 14มาเสน 15ทฺวาทสมาสิโก 16สํวจฺฉโร, 17เตน 18สํวจฺฉเรน 19ทิพฺพํ 20วสฺสสหสฺสํ 21อายุปฺปมาณํ.
    (อ.พันแห่งปี อันเป็นทิพย์) นั้น เป็นโกฏิแห่งปี ๓ ด้วย เป็น- แสนแห่งปี ๖๐ ด้วย * โดยการนับแห่งมนุษย์ (ย่อมเป็น) ; เพราะ- เหตุนั้น แม้ อ.วันหนึ่ง ของเทพบุตรนั้น ไม่ก้าวล่วงแล้ว เป็นกาล เช่นกับด้วยกาลครู่หนึ่งเทียว ได้เป็นแล้ว ฯ32  1ตํ 2มนุสฺสคณนาย 3ติสฺโส 4วสฺสโกฏิโย 5สฏฺี 6 7วสฺสสตสหสฺสานิ; 8ตสฺมา 9ตสฺส 10เทวปุตฺตสฺส 11เอกทิวโสปิ 12นาติกฺกนฺโต 13มุหุตฺตสทิโสว 14กาโล 15อโหสิ.
    ชื่อ อ.ความประมาท (แห่งสัตว์ ท.) ผู้มีอายุน้อย อย่างนี้ ไม่ควรแล้ว เกินเปรียบ ดังนี้ ฯ33  1เอวํ 2อปฺปายุกานํ 3ปมาโท 4นาม 5อติวิย 6อยุตฺโตติ.
    ในวันรุ่งขึ้น อ.ภิกษุ ท. เข้าไปแล้ว สู่บ้าน เห็นแล้ว ซึ่งศาลา เป็นที่นั่ง อันอันหญิงนั้นไม่ปฏิบัติแล้ว ซึ่งอาสนะ ท. อันอันหญิงนั้น ไม่ปูลาดแล้ว ซึ่งน้ำอันบุคคลพึงดื่ม อันอันหญิงนั้นไม่เข้าไปตั้งไว้ แล้ว กล่าวแล้ว ว่า อ.นางปติปูชิกา (ไปแล้ว) ในที่ไหน ดังนี้ ฯ34  1ปุนทิวเส 2ภิกฺขู 3คามํ 4ปวิฏฺา 5อาสนสาลํ 6อปฺปฏิชคฺคิตํ 7อาสนานิ 8อปฺปญฺญตฺตานิ 9ปานียํ 10อนุปฏฺปิ 11ตํ 12ทิสฺวา 13“กหํ 14ปติปูชิกาติ 15อาหํสุ.
    (อ.ชน ท. กล่าวแล้ว) ว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ อ.ท่าน ท. จักเห็น ซึ่งนางปติปูชิกานั้น ในที่ไหน, ครั้นเมื่อพระผู้เป็นเจ้า ท. ฉันแล้ว ไปแล้ว ในวันวาน, (อ.นางปติปูชิกานั้น) ตายแล้ว ในสมัยเป็นที่สิ้น ไปแห่งวัน ดังนี้ ฯ35  1“ภนฺเต 2กหํ 3ตุมฺเห 4ตํ 5ทกฺขิสฺสถ, 6หีโย 7อยฺเยสุ 8ภุญฺชิตฺวา 9คเตสุ, 10สายณฺหสมเย 11มตาติ.
    อ.ภิกษุผู้เป็นปุถุชน ท. ฟังแล้ว ซึ่งคำนั้น ระลึกถึงแล้ว ซึ่งอุปการะ ของนางปติปูชิกานั่น ไม่ได้อาจแล้ว เพื่ออันทรงไว้พร้อม ซึ่งน้ำตา ท., อ.ธรรมสังเวช ได้เกิดขึ้นแล้ว แก่พระขีณาสพ ท. ฯ36  1ตํ 2สุตฺวา 3ปุถุชฺชนภิกฺขู 4เอติสฺสา 5อุปการํ 6สรนฺตา 7อสฺสูนิ 8สนฺธาเรตุํ 9นาสกฺขึสุ, 10ขีณาสวานํ 11ธมฺมสํเวโค 12อุทปาทิ.
    อ.ภิกษุ ท. เหล่านั้น กระทำแล้ว ซึ่งกิจด้วยภัตร ไปแล้ว สู่วิหาร ถวายบังคมแล้ว ซึ่งพระศาสดา ทูลถามแล้ว ว่า ข้าแต่พระองค์- ผู้เจริญ อ.อุบาสิกา ชื่อว่าปติปูชิกา ลุกขึ้นแล้ว ลุกขึ้นพร้อมแล้ว กระทำแล้ว ซึ่งบุญ ท. มีประการต่าง ๆ ปรารถนาแล้ว ซึ่งสามีนั่นเทียว, ในกาลนี้ อ.อุบาสิกานั้น ตายแล้ว บังเกิดแล้ว ในที่ไหน หนอ แล ดังนี้ ฯ37  1เต 2ภตฺตกิจฺจํ 3กตฺวา 4วิหารํ 5คนฺตฺวา 6สตฺถารํ 7วนฺทิตฺวา 8ปุจฺฉึสุ 9“ภนฺเต 10ปติปูชิกา 11นาม 12อุปาสิกา 13อุฏฺาย 14สมุฏฺาย 15นานปฺปการานิ 16ปุญฺญานิ 17กตฺวา 18สามิกเมว 19ปฏฺเสิ, 20สา 21อิทานิ 22มตา, 23กหํ 24นุ 25โข 26นิพฺพตฺตาติ.
    (อ.พระศาสดา ตรัสแล้ว) ว่า ดูก่อนภิกษุ ท. (อ.อุบาสิกานั้น บังเกิดแล้ว) ในสำนัก ของสามี ของตนนั่นเทียว ดังนี้ ฯ38  1อตฺตโน 2สามิกสฺเสว 3สนฺติเก 4ภิกฺขเวติ.
    (อ.ภิกษุ ท.) (กราบทูลแล้ว) ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ (อ.อุบาสิกานั้น ปรารถนาแล้ว ซึ่งสามี นั่น หามิได้, ชื่อ อ.เทพบุตร ชื่อว่ามาลาภารี ในภพชื่อว่าดาวดึงส์ เป็นสามี ของอุบาสิกานั้น (ย่อมเป็น), อ.อุบาสิกานั้น เคลื่อนแล้ว จากที่เป็นที่ประดับซึ่ง ดอกไม้ ของเทพบุตรนั้น ไปแล้ว บังเกิดแล้ว ในสำนัก ของเทพ บุตรนั้นนั่นเทียว อีก ดังนี้ ฯ39  1“นตฺถิ 2ภนฺเต 3สามิกสฺส 4สนฺติเกติ.
1“น 2สา 3ภิกฺขเว 4เอตํ 5สามิกํ 6ปฏฺเสิ, 7ตาวตึสภวเน 8ตสฺสา 9มาลาภาริเทวปุตฺโต 10นาม 11สามิโก, 12สา 13ตสฺส 14ปุปฺผปิ 15ลนฺธนฏฺานโต 16จวิตฺวา 17ปุน 18คนฺตฺวา 19ตสฺเสว 20สนฺติเก 21นิพฺพตฺตาติ.
    (อ.ภิกษุ ท. กราบทูลแล้ว) ว่า ข้าแต่ พระองค์ผู้เจริญ ได้ยินว่า อ.อย่างนั้นหรือ ดังนี้ ฯ40  1“เอวํ 2กิร 3ภนฺเตติ.
     (อ.พระศาสดา ตรัสแล้ว) ว่า ดูก่อนภิกษุ ท. เออ (อ.อย่างนั้น) ดังนี้ ฯ41  1“อาม 2ภิกฺขเวติ.
    (อ.ภิกษุ ท. กราบทูลแล้ว) ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ โอ! อ.ชีวิต ของสัตว์ ท. นิดหน่อย, อ.อุบาสิกา อังคาสแล้ว ซึ่ง- ข้าพระองค์ ท. ในเวลาเช้าเทียว ตายแล้ว ด้วยพยาธิอันเกิดขึ้นแล้ว ในเวลาเย็น ดังนี้ ฯ42  1อโห 2ปริตฺตํ 3ภนฺเต 4สตฺตานํ 5ชีวิตํ, 6ปาโตว 7อมฺเห 8ปริวิสิตฺวา 9สายํ 10อุปฺปนฺนพฺยาธินา 11มตาติ.
    อ.พระศาสดา ตรัสแล้ว ว่า ดูก่อนภิกษุ ท. เออ ชื่อ อ.ชีวิต ของสัตว์ ท. นิดหน่อย, เพราะเหตุนั้นนั่นเทียว (อ.มัจจุ) ผู้กระทำซึ่ง ที่สุด ยังสัตว์ ท. เหล่านี้ ผู้ไม่อิ่มแล้วด้วยวัตถุกาม ท. ด้วยนั่นเทียว ด้วยกิเลสกาม ท. ด้วย ให้เป็นไปแล้ว ในอำนาจ ของตน พาเอา (ซึ่งสัตว์ ท.) ผู้คร่ำครวญอยู่ ผู้ร่ำไรอยู่ ไปอยู่ ดังนี้ ตรัสแล้วซึ่งพระ คาถานี้ว่า (อ.มัจจุ) ผู้กระทำซึ่งที่สุด ย่อมกระทำ ซึ่งนระ ผู้เลือก- เก็บอย ู ่ ซึ่งดอกไม้ ท. นั่นเทียว ผ ู ้มีใจข้องแล้วโดย- อาการมีอย่างต่าง ๆ ผู้ไม่อิ่มแล้ว ในกาม ท. นั่นเทียว สู ่อำนาจ ดังนี้ ฯ43  1สตฺถา 2“อาม 3ภิกฺขเว 4ปริตฺตํ 5สตฺตานํ 6ชีวิตํ 7นาม, 8เตเนวิเม 9สตฺเต 10วตฺถุกาเมหิ 11เจว 12กิเลส- 13กาเมหิ 14 15อติตฺเต 16เอว 17อนฺตโก 18อตฺตโน 19วเส 20วตฺเตตฺวา 21กนฺทนฺเต 22ปริเทวนฺเต 23คเหตฺวา 24คจฺฉตีติ 25วตฺวา 26อิมํ 27คาถมาห 28“ปุปฺผานิ 29เหว 30ปจินนฺตํ 31พฺยาสตฺตมนสํ 32นรํ 33อติตฺตํเยว 34กาเมสุ 35อนฺตโก 36กุรุเต 37วสนฺติ.
    (อ.อรรถ) ว่า ผู้เลือกเก็บอยู่ ซึ่งดอกไม้คือกามคุณ ท. อัน เนื่องเฉพาะแล้วด้วยอัตภาพด้วยนั่นเทียว อันเนื่องเฉพาะแล้ว ด้วยเครื่องอุปกรณ์ด้วย ราวกะ อ.นายมาลาการ (เลือกเก็บอยู่) ซึ่งดอกไม้ต่างๆ ท. ในสวนแห่งดอกไม้ (ดังนี้ ในบท ท.) เหล่านั้น หนา (แห่งบาทแห่งพระคาถา) ว่า ปุปฺผานิ เหว ปจินนฺตํ ดังนี้ ฯ44  1ตตฺถ 2“ปุปฺผานิ 3เหว 4ปจินนฺตนฺติ: 5ปุปฺผาราเม 6มาลากาโร 7นานาปุปฺผานิ 8วิย 9อตฺตภาวปฺ- 10ปฏิพทฺธานิ 11เจว 12อุปกรณปฺปฏิพทฺธานิ 13 14กามคุณ- 15ปุปฺผานิ 16โอจินนฺตเมว.
    (อ.อรรถ) ว่า ผู้มีใจซ่านไปแล้ว โดยอาการมีอย่างต่างๆ (ในอารมณ์ ท.) อันไม่ถึงพร้อมแล้ว ด้วยอำนาจแห่งความปรารถนา (ในอารมณ์ ท.) อันถึงพร้อมแล้ว ด้วยอำนาจแห่งความยินดี (ดังนี้ แห่งบาทแห่งพระคาถา) ว่า พฺยาสตฺตมนส นรํ ดังนี้ ฯ45  1พฺยาสตฺตมนสํ 2นรนฺติ: 3อสมฺปตฺเตสุ 4ปตฺถนาวเสน 5สมฺปตฺเตสุ 6เคธวเสน 7วิวิเธนากาเรน 8อาสตฺตจิตฺตํ.
    (อ.อรรถ) ว่า เป็นผู้ไม่อิ่มแล้ว ในวัตถุกามและกิเลสกาม ท. ด้วยการแสวงหาบ้าง ด้วยการได้เฉพาะบ้าง ด้วยการใช้สอยบ้าง ด้วยการเก็บไว้บ้างนั่นเทียว มีอยู่ (ดังนี้ แห่งบาทแห่งพระคาถา) ว่า อติตฺตเยว กาเมสุ ดังนี้ 46  1อติตฺตํเยว 2กาเมสูติ: 3วตฺถุกามกิเลสกาเมสุ 4ปริเยสเนนปิ 5ปฏิลาเภนปิ 6ปริโภเคนปิ 7นิธาเนนปิ 8อติตฺตํ 9เอว 10สมานํ.
    (อ.อรรถ) ว่า (อ.มัจจุ) ผู้กระทำซึ่งที่สุด อันบัณฑิตนับพร้อม แล้วว่าความตาย พาเอา (ซึ่งนระ) ผู้คร่ำครวญอยู่ ผู้ร่ำไรอยู่ ไปอยู่ (ยังนระนั้น) ย่อมให้ถึง ซึ่งอำนาจ ของตน ดังนี้ (แห่งบาทแห่งพระ คาถา) ว่า อนฺตโก กุรุเต วสํ ดังนี้ ฯ47  1อนฺตโก 2กุรุเต 3วสนฺติ 4มรณสงฺขาโต 5อนฺตโก 6กนฺทนฺตํ 7ปริเทวนฺตํ 8คเหตฺวา 9คจฺฉนฺโต 10อตฺตโน 11วสํ 12ปาเปตีติ 13อตฺโถ.
    ในกาลเป็นที่สุดลงแห่งเทศนา (อ.ชน ท.) มาก บรรลุแล้ว (ซึ่งอริยผล ท.) มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ฯ48  1เทสนาวสาเน 2พหู 3โสตาปตฺติผลาทีนิ 4ปาปุณึสุ.
    อ.เทศนา เป็นเทศนาเป็นไปกับด้วยวาจามีประโยชน์ เกิดแล้ว แก่มหาชน ดังนี้แล ฯ49  1เทสนา 2มหาชนสฺส 3สาตฺถิกา 4ชาตาติ.
    อ.เรื่องแห่งหญิงชื่อว่าปติปชิกา (จบแล้ว) ฯ50  1ปติป 2ชิกาวตฺถุ.